10 อันดับงูที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก
ในโลกของเรา งูเป็นสัตว์เลี้ยงที่สร้างความกลัวให้กับผู้คนอย่างมาก ไม่เพียงแต่ความยาวของพวกเขาที่น่าตกใจ แต่ยังมีพิษที่ร้ายแรงอย่างน่ากลัวด้วย เพื่อปกป้องสัตว์เลี้ยงและความปลอดภัยของคุณ เราจึงขอแนะนำ 10 อันดับงูที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก ซึ่งอาจมีอยู่ใกล้เคียงหรือแม้แต่อยู่ในประเทศไทย และงูทะเลด้วย
1. งูอินลันด์ (Inland Taipan)
งูอินลันด์ถือเป็นงูที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก พิษของเขาสามารถฆ่าคนได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที เนื่องจากมีพิษที่ทำลายระบบประสาท ทำให้มีอาการเบื่ออาหาร อ่อนเพลีย และเกิดอาการล้างไขมันในเลือด
2. งูไฟฟ้า (Eastern Brown Snake)
งูไฟฟ้าคืองูพิษที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตมากที่สุดในออสเตรเลีย พิษของงูไฟฟ้าเป็นพิษที่ทำลายระบบประสาท อาการอย่างหนึ่งคือทำให้เกิดอาการหัวใจวาย ชักอย่างรุนแรง และสิ้นสุดลงที่เสียชีวิตได้
3. งูกามูชิง (Coastal Taipan)
งูกามูชิงเป็นงูพิษที่พบในออสเตรเลียและนิวกินี พิษของงูกามูชิงเป็นชนิดเดียวกับงูอินลันด์ ทำลายระบบประสาทและมีผลกระทบร้ายแรงต่อร่างกาย การถูกกัดโดยงูกามูชิงอาจทำให้เกิดอาการชักรุนแรง โดยเฉพาะที่เลือดและระบบหายใจ
4. งูทับสมิงคลา หรือ งูมาลายัน (Malayan Pit Viper)
เป็นงูพิษที่พบได้ในประเทศไทยและภูมิภาคใกล้เคียง พิษทำลายเนื้อเยื่อและเซลล์เลือด อาการที่พบหลังจากถูกกัดได้แก่บวมแดง แผลเปื่อย และเลือดออกผิดปกติ
5. งูจงอาง (King Cobra)
งูจงอางมีขนาดใหญ่และเป็นงูที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในไทย พิษมีผลต่อระบบประสาท อาการที่เกิดขึ้นหลังจากถูกกัด ได้แก่อาการชักรุนแรง หมดแรงอ่อนเพลีย หมดสติ และอาจทำให้เกิดอาการหายใจลำบากและเสียชีวิต
6. งูเขียวหางไหม้ (Green Bamboo Viper)
งูเขียวหางไหม้เป็นงูพิษที่พบในประเทศไทยและภูมิภาคใกล้เคียง พิษของงูเขียวหางไหม้จะทำลายเนื้อเยื่อและเซลล์เลือด อาการที่พบหลังจากถูกัดจากงูเขียวหางไหม้ได้แก่บวมแดง แผลเปื่อย และเลือดออกผิดปกติ นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการหนาวสั่น หน้ามืด เหงื่อออก เป็นต้น
7. งูมะเฟืองหลอด (Belcher’s Sea Snake)
งูมะเฟืองหลอดเป็นงูที่พบในทะเลเอเชียตะวันออกและทะเลอินเดียน เป็นงูทะเลที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก พิษของงูมะเฟืองหลอดมีสารพิษนีโรท็อกซินที่กระทำต่อระบบประสาท และมีอาการอื่นๆ เช่น อ่อนเพลีย มึนงง ชัก และอาจทำให้เกิดอาการหายใจลำบากและเสียชีวิตได้
8. งูม่านหนามทอง (Russell’s Viper)
งูม่านหนามทองพบได้ในเอเชียตะวันออกและเอเชียใต้ พิษของงูม่านหนามทองเป็นพิษเนื้อเยื่อ (Hemotoxic) ทำลายเซลล์เลือดและอวัยวะภายใน การถูกกัดโดยงูม่านหนามทองอาจเกิดอาการบาดเจ็บที่ขาดเลือด อาการไตวาย และเป็นต้น
9. งูคอบราณ (Black Mamba)
งูคอบราณพบในแอฟริกาตะวันออกและเซาท์แอฟริกา พิษของงูคอบราณเป็นพิษโปรดิวส์เต็ด็กซ์ท็อกซินที่กระทำต่อระบบประสาท การถูกกัดโดยงูคอบราณอาจทำให้เกิดอาการชักรุนแรง เช่น ชัก หมดสติ หายใจลำบาก และสิ้นสุดลงที่เสียชีวิต
10. งูทับทิม (Tiger Snake)
งูทับทิมเป็นงูพิษที่พบในออสเตรเลียและบาห์เรน พิษของงูทับทิมเป็นพิษที่กระทำต่อระบบประสาทและระบบทางเลือด การถูกกัดโดยงูทับทิมอาจเกิดอาการบาดเจ็บที่จุดกัด บวมแดง และกล้ามเนื้ออ่อนแรง นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการชัก มึนงง หมดสติ และอาจเสียชีวิตได้
โดนงูกัด ปฐมพยาบาลอย่างไร
การปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อโดนงูกัดก่อนไปพบแพทย์เป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะถ้าอยู่ในสถานที่ๆ ไกลจากโรงพยาบาลหรือใช้เวลาเดินทางเยอะเช่น ป่า น้ำตก หรือเกาะ ดังนั้น หากคุณโดนงูกัดจึงควรพยายามขอความช่วยเหลือจากทีมแพทย์หรือผู้ปฐมพยาบาลโดยเร็วที่สุด และปฏิบัติตามคำแนะนำเบื้องต้นต่อไปดังนี้
- รีบหาที่ร่องรอยของการกัด: หากสามารถระบุตำแหน่งที่ถูกกัดได้ ควรจดจำหรือระบุไว้ให้กับทีมแพทย์เพื่อให้พวกเขาสามารถประเมินความรุนแรงของการกัดได้เร็วขึ้น
- ทำให้ร่างกายนอนอยู่ในท่าที่ผ่อนคลาย: ระบายออกซิเจนและลดการกระตุกของเลือดโดยทำให้ร่างกายพักผ่อนอยู่ในท่าที่สบาย หลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวมากเพื่อลดการกระตุกของพิษในร่างกาย
- ห้ามเคลื่อนไหวของส่วนที่โดนกัด: หากเป็นไปได้ ควรจำกัดการเคลื่อนไหวของส่วนที่โดนกัด เช่น มือหรือเท้า โดยการทำให้ส่วนที่โดนกัดนิ่งอยู่
- ระงับการไหลเวียนของพิษ: คุณอาจจำเป็นต้องใช้ผ้าสะอาดหรือผ้าปิดแผลให้กับที่รอยแผลเพื่อลดการไหลของพิษจากบริเวณที่โดนกัด
- ปฏิบัติการช่วยหายใจหากจำเป็น: หากคุณแสดงอาการที่รุนแรง เช่น หายใจลำบาก ทีมแพทย์อาจต้องดำเนินการช่วยหายใจและการช่วยชีวิตโดยใช้เครื่องช่วยหายใจ ตลอดจนเตรียมสำหรับกรณีฉุกเฉินเพิ่มเติม
- ระบุข้อมูลเกี่ยวกับงู: หากคุณสามารถระบุข้อมูลได้ ให้บอกเกี่ยวกับงูที่กัดคุณ เช่น สี ขนาด หรือประเภทของงู เพื่อให้แพทย์หาเซรุ่มงูได้
- ห้ามทำอะไรกับแผล: อย่าลองดูดพิษด้วยปากหรือใช้สารสำหรับปิดแผล เนื่องจากสิ่งเหล่านี้อาจทำให้พิษแพร่กระจายได้มากขึ้นในร่างกาย
- รีบพบแพทย์: การพบแพทย์เพื่อการประเมินเพิ่มเติมและรับการรักษาเป็นสิ่งสำคัญ แพทย์จะตรวจสอบและตรวจสอบอาการที่เกี่ยวข้อง
สามารถรับชมบทความเกี่ยวกับงูได้ที่
มีต้นไม้บางชนิดที่งูไม่ชอบและไม่เข้าใกล้ อีกทั้งยังปลอดภัยสำหรับคนหรือสัตว์เลี้ยงอื่นๆ จึงแนะนำให้ปลูกไว้ในบริเวณบานได้มีดังนี้
1. ต้นระย่อม
2. ฟ้าทะลายโจร
3. ต้นจิงจูฉ่าย
4. ว่านพญานาคราช
5. กุยช่ายประดับ
6. ดาวเรือง
งูสิงดงโดยทั่วไปเป็นงูที่มีลักษณะคล้ายกับงูเห่า พบได้ตามบ้านเรือนเพราะชอบจับหนูหรือจิ้งจกกิน เมื่อถูกคุกคามมักจะขู่ฟ่อเหมือนงูเห่า แต่ไม่มีแม่เบี้ย และเมื่อถูกรบกวนหนักก็จะเลื้อยหนี และไม่มีพิษ มีความว่องไวและคล่องแคล่วกว่างูเห่า มักจะจับตัวยาก
สามารถโทรแจ้งหน่วยกู้ภัย เมื่อคุณพบเห็นงูเลื้อยอยู่ในบ้าน ให้จับตามองงูไว้ และอยู่ห่างจากมันให้ไกลที่สุด แล้วโทรแจ้ง 199 เพื่อให้หน่วยกู้ภัยเข้ามาจับงู
